10 อันดับโปรแกรมกราฟิก สำหรับวาดภาพ 2D, 3D
10 อันดับ โปรแกรมกราฟิก สำหรับวาดภาพ 2D, 3D ปี 2023 มีอะไรบ้าง |
|||||||
ปัจจุบันงานกราฟิกถือเป็นสายงานหนึ่งที่มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสามารถนำมาใช้ต่อยอดในเรื่องต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ การโฆษณา การออกแบบ ไปจนถึงใช้สำหรับเป็นสื่อประกอบความรู้ การจะสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกที่สวยงามออกมานั้นจำเป็นต้องมีไอเดียรวมไปถึงมีโปรแกรมกราฟิกที่ดีไว้ใช้งาน ซึ่งปัจจุบันโปรแกรมกราฟิกนั้นมีให้เลือกใช้กันมากมาย ทั้งยังมีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
|
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเป็นกราฟิกดีไซเนอร์หรืออยากฝึกทักษะการสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกในแบบฉบับของตัวเอง วันนี้เรามี 10 โปรแกรมกราฟิก ที่เหมาะกับการสร้างสรรค์ผลงานมาแนะนำกัน ทั้ง Photoshop, Canva, Procreate, InDesign ฯลฯ และสำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียในการเลือกโปรแกรมมาใช้งาน เราก็มีวิธีการเลือกโปรแกรมกราฟิกมาฝากพร้อมคำแนะนำจากนักออกแบบ |
วิธีการเลือกโปรแกรมกราฟิกโปรแกรมกราฟิกนั้นมีให้เลือกใช้งานมากมาย ซึ่งนอกจากทักษะในการออกแบบแล้ว คุณต้องเข้าใจในกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโปรแกรมด้วย โดยสามารถพิจารณาเลือกใช้โปรแรกมได้จากปัจจัยด้านล่างนี้ค่ะ 1. เลือกโปรแกรมกราฟิกที่สอดคล้องกับผลงานที่ต้องการนำเสนอ |
หลายคนอาจจะเข้าใจว่างานกราฟิกคือการทำภาพประกอบหรือภาพตกแต่งเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วงานกราฟิกมีรูปแบบที่หลากหลายและมีลักษณะงานที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่การออกแบบกราฟิกสำหรับงานโฆษณา การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบสิ่งพิมพ์ การรีทัช ไปจนถึงการสร้างสื่อนำเสนอทั้งแบบภาพนิ่งและแบบภาพเคลื่อนไหว ดังนั้นคุณต้องเลือกโปรแกรมกราฟิกที่มีคุณสมบัติตรงกับรูปแบบงานที่คุณจะทำ เพราะโปรแกรมกราฟิกบางโปรแกรมออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะด้านเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น งานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ คุณอาจจะเลือกใช้โปรแกรมเครือ Adobe เป็นหลัก อย่าง Photoshop, Illustrator และ InDesign แต่ในงานออกแบบ UI คุณอาจจะเลือกใช้โปรแกรมอย่าง Sketch, Figma, Adobe XD รวมถึง After Effect แต่ถ้าหากคุณทำงานด้านสถาปัตยกรรม ต้องใช้โปรแกรมตกแต่งรูปสำหรับการนำเสนอ การใช้โปรแกรมเครือ Affinity เพื่อลดค่าใช้จ่ายก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้ |
2. เลือกโปรแกรมกราฟิกที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ![]() ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เรียนระดับเริ่มต้นหรือมีความชำนาญในการใช้โปรแกรมเหล่านี้ ด้วยความที่โปรแกรมออกแบบมาให้ประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาอยู่ตลอด การใช้งานโปรแกรมออกแบบจึงต้องการการฝึกฝนและเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ จากคนอื่นอยู่เสมอ จึงอาจจะเลือกจากโปรแกรมที่มีผู้ใช้งานมาก มีคลิปหรือวิดิโอสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง ด้วยวิธีนี้ หากคุณใช้งานโปรแกรมแล้วติดปัญหา คุณก็จะสามารถหาทางแก้ไข รวมถึงได้เรียนรู้จากปัญหาเหล่านั้นด้วย ทำให้การใช้งานโปรแกรมไม่ยากจนเกินไป |
3. เลือกโปรแกรมกราฟิกที่สามารถบันทึกไฟล์ได้หลายนามสกุล ![]() การที่คุณจะสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกออกมาหนึ่งชิ้นนั้น บางครั้งคุณอาจจะต้องใช้โปรแกรมแต่งภาพมากกว่าหนึ่งโปรแกรม เนื่องจากแต่ละโปรแกรมจะมีคุณสมบัติในการแต่งภาพที่แตกต่างกัน ปัญหาในการใช้งานโปรแกรมกราฟิกหลายโปรแกรมก็คือ แต่ละโปรแกรมไม่สามารถเปิดไฟล์ที่เป็นนามสกุลเฉพาะของบางโปรแกรมได้ ดังนั้นคุณควรเลือกโปรแกรมที่สามารถบันทึกไฟล์ได้หลายนามสกุล หากใช้โปรแกรมในเครือ Adobe ก็สามารถบันทึกเป็นไฟล์ PSD หรือ AI ได้ แต่ถ้าหากเป็นโปรแกรมกราฟิกทั่ว ๆ ไป ก็ควรบันทึกเป็นไฟล์ JRPG หรือ PNG จะดีที่สุดค่ะ ข้อดีของการบันทึกไฟล์ได้หลายนามสกุลจะทำให้สามารถส่งออกชิ้นงานในโปรแกรมหนึ่งไปทำงานบนอีกโปรแกรมหนึ่งได้ เพื่อแก้ไขและนำชิ้นงานไปทำงานต่อ อีกทั้งยังง่ายต่อการส่งต่องานให้กับคนอื่นที่อาจจะไม่ได้ใช้โปรแกรมเดียวกันอีกด้วยค่ะ |
4. เลือกโปรแกรมกราฟิกสำหรับใช้กับงานออกแบบ 2D หรือ 3D ![]() งานในสายกราฟิกที่มีความน่าสนใจอีกหนึ่งแขนง นั่นก็คือ 3D Graphic ซึ่งเป็นการออกแบบภาพประกอบที่มีลักษณะเป็น 3 มิติ ทำงานบนระนาบแกน X, Y และ Z ซึ่งได้รับความนิยมในการออกแบบเว็บไซต์ หน้าจอ Interface ของโทรศัพท์มือถือ ตัวอย่างของการออกแบบ 3 มิติ เช่น สัญลักษณ์ Siri ในโทรศัพท์มือถือในการออกแบบ 3D Graphic นั้น จะใช้โปรแกรมที่แตกต่างออกไปจากการทำงานแบบ 2 มิติ โปรแกรมที่ได้รับความนิยม เช่น Maya, Cinema4D, Blender, Z Brush การออกแบบในรูปแบบ 3 มิติด้วยโปรแกรมเหล่านี้ สามารถนำชิ้นงานไปต่อยอดได้หลากหลาย เช่น การทำ VR และ AR เป็นต้น แม้โปรแกรม 2D อย่าง Photoshop หรือ Illustrator จะมีฟีเจอร์การทำงานรูปแบบ 3D แต่การใช้งานยังมีข้อจำกัดอยู่มาก แต่ทั้งนี้ การออกแบบกราฟิกให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับภาพ 3 มิติ ทั้งสองโปรแกรมนี้ยังสามารถทำได้เป็นอย่างดี เพียงแต่จะมีข้อจำกัดในการนำชิ้นงานไปประยุกต์ใช้งานค่ะ |
01 Adobe Photoshop ไม่ว่ายังไง Adobe Photoshop ก็ยังคงยืนหนึ่งในใจของผู้คนอยู่เช่นเคย ทั้งยังเป็นเหมือนมาตรฐาน สำหรับคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่ไหนๆ ก็คาดหวังว่าเราควรจะใช้งานซอฟต์แวร์นี้ได้ ด้วยเพราะมันทำงานได้ดีและทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพวาด ลงสี ตัดแต่งภาพ อะไรพวกนี้ จึงไม่น่าแปลกใจหากจะเป็นชื่อที่ติดลมบนไปอีกนาน |
![]() |
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยปลั๊กอินเข้าไปได้ สามารถแบ่งปันพวก brush และ style ระหว่างเครื่องกันได้ อีกทั้งเวอร์ชันใหม่ก็ยังมีการเพิ่มนู่นเพิ่มนี่เข้ามาตลอด จะไม่ให้ผู้คนหลงรัก Photoshop ได้ยังไงกันล่ะ แต่ในข้อดีมันก็มีข้อด้วย คือ Photoshop มันไม่ได้ทำงานในแบบเวกเตอร์ เพราะฉะนั้นก็จะทำให้ไม่สามารถทำงานที่ย่อขยายหรือลากเส้นคมๆ ได้อย่างใจ ซึ่งถ้าต้องการแบบนั้นก็ต้องหันไปใช้ Adobe Illustrator แทน และสำหรับใครที่เลือกไม่ได้ว่าควรจะตัวไหน เขาก็มี Adobe Creative Cloud ออกมา เราสามารถใช้ซอฟแวร์ตัวไหนก็ได้ แต่แน่นอนว่าเป็นลักษณะ Subscription |
02 Affinity Photo คงไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะผูกมัดตัวเองกับโปรแกรม Subscription รายเดือน ทางเลือกของคนกลุ่มนี้ก็พอมีอยู่ นั่นคือ Affinity Photo ซึ่งถือเป็นซอฟต์แวร์ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากใช้ Photoshop ด้วย เพราะมันเป็นโปรแกรมที่จ่ายครั้งเดียวใช้ไปได้ตลอดชีวิต แถมยังสามารถทำงานด้านนี้ได้ใกล้เคียงกัน แตกต่างแค่คุณสมบัติขั้นสูงเท่านั้นที่อาจจะไม่มีให้ |
![]() |
อีกข้อหนึ่ง ถ้าเคยใช้ Photoshop มาก่อน แต่อยากหันมาใช้ Affinity Photo ก็ถือว่าเลือกถูกตัวเลยล่ะ เพราะมันใช้งานกับไฟล์ PSD ได้อย่างสมบูรณ์ การย้ายมาใช้จึงไร้รอยต่อ ทั้งยังทำงานกับไฟล์ที่มีความละเอียดสูงได้ และยังมีเวอร์ชันใน iPad ให้ใช้งานอีก |
03 Adobe Illustrator |
![]() |
โปรแกรม Illustrator โปรแกรมออกชื่อดังที่ใครทุกคนก็น่าจะรู้จักกันดี เหมาะสำหรับสายทำ Illustrator สายวาดภาพกราฟิกแบบเวคเตอร์ ถ้าอยากทำงานแบบโปรเฟสชันนัล ก็ต้องห้ามพลาดกับโปรแกรมนี้เลยครับ เพราะทำงานได้ครบครันที่สุดแล้ว |
04 Canva |
![]() |
Canva คือโปรแกรมช่วยออกแบบที่ทำงานได้ทั้งบนแท็บเล็ต มือถือ และคอมพิวเตอร์ มากับพร้อมเทมเพลตมากกว่า 610,000 แบบ และคลังรูปถ่ายให้เราสามารถใช้งานได้ทันที โดยที่เราไม่ต้องไปนั่งดาวน์โหลดเอง เทมเพลตมีมากมายหลากหลายตั้งแต่ ออกแบบโลโก้ ฟรี, ภาพปก Facebook, วิดีโอ, นามบัตร, โบรชัวร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย |
05 SketchUp |
![]() |
เหมาะสำหรับการออกแบบโครงสร้างหรือการสร้างโมเดลแบบ 3 มิติ SketchUp เป็นโปรแกรมกราฟิกโปรแกรมหนึ่งที่มีความซับซ้อนในการใช้งานสูงมาก แต่ก็เป็นที่นิยมมากเช่นกันสำหรับผู้ที่ต้องการงานออกแบบโครงสร้างหรือออกแบบโมเดลแบบ 3 มิติ โปรแกรม SketchUp เป็นโปรแกรมที่มีเครื่องมือในการออกแบบมากมาย ล่าสุด SketchUp สำหรับ iPad ความสะดวกสบายในการสร้าง แก้ไข และดู model ในแบบ 3 มิติ ไม่ว่าคุณจะอยู่ใน site งาน ระหว่างเดินทาง หรือในที่ทำงานก็ตาม ด้วยการรองรับการควบคุมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Apple Pencil การใช้มือสัมผัส หรือ mouse กับแป้นพิมพ์ คุณสามารถที่จะเลือกใช้การควบคุมตามแบบของคุณเอง การขึ้นรูปทรงตามแนวคิดของคุณจากการวาด กวาดแล้วคลิก ซึ่งเครื่องมือแต่ละอย่างจำเป็นต้องมีทักษะและความเข้าใจในระดับหนึ่ง ความน่าสนใจของโปรแกรมนี้คือสามารถใช้งานร่วมกับไฟล์ได้หลายนามสกุล ทำให้คุณสามารถนำเข้าไฟล์ต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบได้สะดวกมากขึ้น |
06 AutoCAD |
![]() |
โปรแกรมพื้นฐานสำหรับงานออกแบบ 3 มิติ และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับงานด้านวิศวกรรม สิ่งก่อสร้างและระดับอุตสาหกรรม นอกจากจะรองรับการออกแบบ 3 มิติแล้วก็ยังสามารถออกแบบภาพ 2 มิติทั่วไปได้ นอกจากนี้ AutoCAD ยังมีจุดเด่นเรื่องการให้ความละเอียดสูง รองรับการเขียนแบบวงจรไฟฟ้า ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์รองรับการสร้างสิ่งก่อสร้าง และมี Library สิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะ ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับทำ 2D เป็นหลักแล้วเสริมด้วย 3D
|
07 Revit |
![]() |
สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูงในด้านการออกแบบสิ่งก่อสร้างที่จำเป็นจะต้องใช้การจำลองสเกลสิ่งของจริง โปรแกรม Revit ก็เหมาะในการใช้งานค่ะ เนื่องจากตัวโปรแกรมมีรูปแบบอุปกรณ์ทางด้านวิศวกรรมต่าง ๆ โดยอ้างอิงจากสเกลจริง มีความละเอียดสูง และสามารถจำลองค่าต่างๆ ทางวิศวกรรมได้ละเอียด และยังนิยมใช้ในงานด้านการก่อสร้างและงานอสังหาริมทรัพย์ด้วย ส่วนอีกจุดเด่นก็คือ การทำงานแบบ BIM ที่แชร์ฐานข้อมูล ทำให้ทุกฝ่ายที่มีข้อมูลสามารถเข้าถึงงานและปรับเปลี่ยนได้
|
08 Adobe InDesign |
|
โปรแกรมสร้างสื่อสิ่งพิมพ์ จาก ชุดโปรแกรมของ Adobe Creative Cloud ให้คุณได้ควบคุมทุกรายละเอียดของงานออกแบบ และงานด้าน อักษรศิลป์ (Typography) ทำให้คุณสามารถสร้างและจัดวางรูปแบบสิ่งพิมพ์หรือสื่อดิจิทัลได้อย่างมืออาชีพ มีชุดเครื่องมือใหม่ที่ทำให้เราสามารถจัดการรูปแบบของสิ่งพิมพ์ หรือผลงานการวางเลย์เอาต์หน้าหนังสือดิจิทัล ที่เหมาะกับการเปิดอ่านผ่านหน้าจอหลากหลายขนาดได้อย่างง่ายดาย
|
09 Fusion 360 |
![]() |
สำหรับ Fusion 360 ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างครอบคลุมการใช้งานที่หลายหลาก อีกทั้งยังรองรับไฟล์ได้หลากสกุล เหมาะกับการใช้ออกแบบได้หลายประเภท สามารถขึ้นโมเดล 3 มิติได้ทั้งแบบ Mesh และ Solid จึงทำให้สามารถใช้กับงานพิมพ์ได้สะดวกขึ้น อีกทั้งตัวโปรแกรมยังสามารถทำ Render และ Simulation ให้โมเดลเคลื่อนไหวได้ ที่สำคัญคือ สามารถบันทึกไฟล์เพื่อไปใช้งานกับเครื่องจักร CNC รวมไปถึง Laser Cutter และยังทำงานบน Cloud Base ได้ ทำให้ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา |
10 3Ds max |
![]() |
โปรแกรมประเภท โปรแกรมออกแบบ งานกราฟิก (3D Design Software) และงาน 3 มิติสำหรับมืออาชีพ โดยเฉพาะ ผลงานจากค่ายผู้ผลิตโปรแกรมด้านงานออกแบบชื่อดังอย่าง Autodesk รองรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานขึ้นโมเดล 3 มิติ ปั้นรูปทรงออกแบบ 3 มิติ งานอนิเมชัน ทำภาพเคลื่อนไหวสามมิติที่สวยงามสมจริง และสามารถเรนเดอร์ฉากสามมิติ ออกมาได้อย่างสวยงามดีเยี่ยม มีความสมจริงทั้งแสงและเงา โปรแกรมนี้ช่วยให้เราสามารถ สร้างสรรค์ผลงาน 3 มิติ ได้อย่างสมจริงระดับมืออาชีพ |